จัดการร้านยังไง ให้เห็นเงินล้าน?
การขายของชำก็เป็นอีกหนึ่งอาชีพที่คนอยากอยู่บ้านเฉยๆ ต้องการที่จะเปิดเป็นธุรกิจส่วนตัว เพราะตัวเนื้องานที่ไม่ยาก ไม่ซับซ้อน แค่เช็คของ จัดของ ขายของ และระวังโจรขโมยของ ไม่ต้องออกเดินทางไปทำงาน ไม่ต้องฟังเสียบ่นของเจ้านาย ไม่ต้องคอยระวังเพื่อนร่วมงานนินทา หากนั่งอยู่ร้านขายของเฉยๆ ก็ดูทีวี อ่านหนังสือ เล่นอินเตอร์เน็ตไป หรืออาจจะเพิ่มอาชีพเสริมด้วยการขายออนไลน์ก็เป็นตัวเลือกที่ดีอีกทาง
แต่ก่อนที่คุณจะลาออกจากงานประจำมาเปิดร้านขายของชำ คุณต้องคำนึงบ้างมาดูกันครับ
1. คุณต้องบริหารร้านค้าของคุณอย่างเป็นขั้นตอน
อ่านไม่ผิดหรอกครับ ถึงแม้คุณแค่จะเปิดร้านขายของชำเล็ก การบริหารจัดการก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการเปิดร้าน เพราะคุณต้องปฏิวัติ ปฏิรูปร้านค้าของคุณให้สู้กับคู่แข่งได้ เพราะแค่คุณตื่นนอนมาเปิดร้าน รอคนมาซื้อของ มันไม่พอหรอกครับ คุณจะต้องมีการสำรวจตลาดที่จะเปิด มีการทำการตลาด และมีการบริการที่สู้คู่แข่งของคุณได้
2. คุณต้องมีเงินทุนหมุนเวียน
เรื่องเงินทุนเป็นเรื่องสำคัญอีกข้อ เพราะแค่เงินทุนเปิดร้านยังไม่พอครับ เพราะของที่คุณลงทุนมาขายนั้นไม่ใช่ว่า ลงเงินปุ๊ป จะได้เงินและกำไรกลับมาปั๊ป มันจะต้องรอเวลาเพื่อได้เงินทุนคืน เพราะฉะนั้นแล้วการมีเงินสำรองเพื่อหมุนเงิน และการทำบัญชีแยก รายรับ รายจ่าย ระหว่างร้านค้า กับการใช้ส่วนตัวนั้นจำเป็นมาก เรียกว่าเป็นการบริหารจัดการเงินที่จะทำให้เวลาเราจะใช้จ่ายอะไรของร้านค้า เราสามารถที่จะนำเงินตรงนี้ไปใช้ได้โดยไม่กระทบกับเงินในกระเป๋าของคุณ
3. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าและ
เนื่องจากพนักงานทั่วไปของร้านสะดวกซื้อเป็นพนักงานกินเงินเดือน ทำให้บางคนขาดจิตสำนึกในการใส่ใจการบริการเพราะต่างคิดว่านี่ไม่ใช่ทรัพย์สินของตน ผิดกับผู้ประกอบการที่ลงมือมาทำเอง ซึ่งนั่นเป็นข้อได้เปรียบที่คุณสามารถผูกมิตรกับลูกค้าเพื่อสร้างความสนิทสนม และจะทำให้ลูกค้าติดใจกลับมาซื้อซ้ำจนกลายเป็นลูกค้าประจำไปในที่สุด
4. การจัดร้านที่ดูสะอาด
หน้าร้านก็คือหน้าบ้านที่ใครผ่านไปมาได้เห็น หากคุณจัดหน้าร้านให้ดูสะอาด น่าเข้ามาใช้บริการ มีการวางชั้นวางสินค้าที่ดูโดดเด่น แยกเป็นสัดส่วน มีเคาน์เตอร์สำหรับคิดเงินแยกเป็นสัดส่วน จะติดเครื่องปรับอากาศหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ความเหมาะสม แต่สิ่งที่ควรคำนึงคือความสะอาด
5. ทำเลที่เหมาะสม
หากคุณจะเปิดร้านค้า ทำเลที่ตั้งก็เป็นอีกสิ่งที่ควรคำนึง เพราะหากคุณอยู่ต้นซอย ติดถนน ก็จะทำให้คุณได้ลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร แต่หากคุณจะเปิดร้านค้าในหมู่บ้าน คุณก็ควรคำนึงถึงสถานที่ตั้งว่า ส่วนใหญ่คนผ่านไปมาเส้นทางนี้หรือไม่ หากไม่อะไรจะมีสิ่งดึงดูดให้คนเหล่านั้นมาใช้บริการที่ร้านของคุณ ซึ่งนี่ก็จะเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่คุณต้องคำนึงถึง
แต่ก่อนที่คุณจะลาออกจากงานประจำมาเปิดร้านขายของชำ คุณต้องคำนึงบ้างมาดูกันครับ
1. คุณต้องบริหารร้านค้าของคุณอย่างเป็นขั้นตอน
อ่านไม่ผิดหรอกครับ ถึงแม้คุณแค่จะเปิดร้านขายของชำเล็ก การบริหารจัดการก็เป็นสิ่งที่จำเป็นมากในการเปิดร้าน เพราะคุณต้องปฏิวัติ ปฏิรูปร้านค้าของคุณให้สู้กับคู่แข่งได้ เพราะแค่คุณตื่นนอนมาเปิดร้าน รอคนมาซื้อของ มันไม่พอหรอกครับ คุณจะต้องมีการสำรวจตลาดที่จะเปิด มีการทำการตลาด และมีการบริการที่สู้คู่แข่งของคุณได้
2. คุณต้องมีเงินทุนหมุนเวียน
เรื่องเงินทุนเป็นเรื่องสำคัญอีกข้อ เพราะแค่เงินทุนเปิดร้านยังไม่พอครับ เพราะของที่คุณลงทุนมาขายนั้นไม่ใช่ว่า ลงเงินปุ๊ป จะได้เงินและกำไรกลับมาปั๊ป มันจะต้องรอเวลาเพื่อได้เงินทุนคืน เพราะฉะนั้นแล้วการมีเงินสำรองเพื่อหมุนเงิน และการทำบัญชีแยก รายรับ รายจ่าย ระหว่างร้านค้า กับการใช้ส่วนตัวนั้นจำเป็นมาก เรียกว่าเป็นการบริหารจัดการเงินที่จะทำให้เวลาเราจะใช้จ่ายอะไรของร้านค้า เราสามารถที่จะนำเงินตรงนี้ไปใช้ได้โดยไม่กระทบกับเงินในกระเป๋าของคุณ
3. มีมนุษย์สัมพันธ์ที่ดีต่อลูกค้าและ
เนื่องจากพนักงานทั่วไปของร้านสะดวกซื้อเป็นพนักงานกินเงินเดือน ทำให้บางคนขาดจิตสำนึกในการใส่ใจการบริการเพราะต่างคิดว่านี่ไม่ใช่ทรัพย์สินของตน ผิดกับผู้ประกอบการที่ลงมือมาทำเอง ซึ่งนั่นเป็นข้อได้เปรียบที่คุณสามารถผูกมิตรกับลูกค้าเพื่อสร้างความสนิทสนม และจะทำให้ลูกค้าติดใจกลับมาซื้อซ้ำจนกลายเป็นลูกค้าประจำไปในที่สุด
4. การจัดร้านที่ดูสะอาด
หน้าร้านก็คือหน้าบ้านที่ใครผ่านไปมาได้เห็น หากคุณจัดหน้าร้านให้ดูสะอาด น่าเข้ามาใช้บริการ มีการวางชั้นวางสินค้าที่ดูโดดเด่น แยกเป็นสัดส่วน มีเคาน์เตอร์สำหรับคิดเงินแยกเป็นสัดส่วน จะติดเครื่องปรับอากาศหรือไม่นั้นก็แล้วแต่ความเหมาะสม แต่สิ่งที่ควรคำนึงคือความสะอาด
5. ทำเลที่เหมาะสม
หากคุณจะเปิดร้านค้า ทำเลที่ตั้งก็เป็นอีกสิ่งที่ควรคำนึง เพราะหากคุณอยู่ต้นซอย ติดถนน ก็จะทำให้คุณได้ลูกค้าทั้งขาประจำและขาจร แต่หากคุณจะเปิดร้านค้าในหมู่บ้าน คุณก็ควรคำนึงถึงสถานที่ตั้งว่า ส่วนใหญ่คนผ่านไปมาเส้นทางนี้หรือไม่ หากไม่อะไรจะมีสิ่งดึงดูดให้คนเหล่านั้นมาใช้บริการที่ร้านของคุณ ซึ่งนี่ก็จะเป็นอีกหนึ่งโจทย์ที่คุณต้องคำนึงถึง
24 ก.ย. 2568